contents

ความเชื่อเรื่องบันไดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย

สำหรับความเชื่อในเรื่องของบันไดบ้านตามหลักฮวงจุ้ยนั้นว่ากันว่า การที่เราสร้างบันไดไปยังชั้นสองควรมีชานเพื่อพักบันได เพื่อเป็นการป้องกันในเรื่องของการสภาพการไหลของอากาศ หากไม่มีชานพักจะทำให้อากาศไม่สามารถไหลเทได้สะดวก ที่สำคัญการออกแบบบันไดนั้นไม่ควรออกแบบให้เป็นเลขคู่เด็ดขาด เพราะตามหลักฮวงจุ้ยแล้วเมื่อเราก้าวเท้าขวา ก็ควรจบด้วยเท้าซ้าย หรือว่าก้าวท้าวซ้าย ก็ควรจบด้วยเท้าขวา ไม่ใช่ก้าวเท้าขวา จบด้วยเท้าขวา หรือก้าวเท้าซ้ายจบด้วยเท้าซ้าย มันจะไม่สมดุล และการเลือกจำนวนคี่ในการสร้างบันได สื่อถือคนเดิน แต่หากเป็นเลขคู่จะสื่อถึงคนตายนั่นเอง

ในส่วนของบันไดบ้าน ที่มีการสร้างนอกบ้าน เขาเรียกกันว่าเป็นบันไดโจร ฉะนั้นบันไดบ้านไม่ควรสร้างให้อยู่นอกตัวบ้าน แม้ว่าในบางมุมมันจะมีความสวยงาม อาจจะเป็นสไตล์ แต่ว่าตามหลักฮวงจุ้ยมันคือบันไดโจร ไม่ดีต่อบ้าน และทำให้เสียเงินเสียทองที่สำคัญเหมือนเป็นเส้นทางในการาโจรเข้าบ้านได้ง่าย

ในส่วนของบ้านทรงไทย ที่มีการยกพื้นสูงๆนั้น หากมีบันไดอกมานอกตัวบ้าน ควรเลือกทำบันไดให้อยู่ทางด้านซ้ายหรือว่าทางด้านขวา จะช่วยเก็บเงินได้ดีกว่าการที่บันไดอยู่ตรงกลาง แต่ความจริงแล้วฮวงจุ้ยที่ดีในการวางบันไดบ้าน เราก็ต้องเน้นในเรื่องของเชิงองศาด้วย ว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร แต่ละบ้านมีองศาที่ดีแตกต่างกัน เราจึงควรเลือกจัดฮวงจุ้ยบ้านให้เป็นผลดีที่สุด ควรจัดบันไดให้อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด

ฉะนั้นควรเลือกการสร้างบันไดตั้งแต่ออกแบบบ้าน หากมาจัดการทีหลังอาจจะทำให้มีความยุ่งยากได้ ด้วยความที่บันไดเป็นตัวเชื่อมของพลังต่างๆระหว่างตัวบ้าน เราจึงควรเลือกการสร้างความเคลื่อนไหวภายในบ้านจากบันไดในจุดที่ดีที่สุด เพราะหากว่าเรามีปัญหาในการสร้างบันได ก็จะทำให้ตำแหน่งของคนอยู่อาศัยภายในบ้านเป็นอันตรายและไม่ปลอดภัย ที่สำคัญทำให้สมาชิกภายในบ้านไม่มีโชคลาภอีกด้วย

ความเชื่อเรื่องบันไดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย
ความเชื่อเรื่องบันไดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย

เคล็ดลับการทอดไข่เจียวให้ฟู น่ารับประทาน

        ไข่เจียว เป็นเมนูที่มีความสุดฮิตเป็นอย่างมาก ที่ใคร ๆ ต่างก็มีการทำเป็นอาหารหลักกันเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่ทำได้ง่าย ๆ กันเลย แต่ถ้าอยากทำให้ไข่เจียวมีเนื้อฟูก็ต้องมีเคล็ดลับแบบเด็ด ๆ กันเลยก็ว่าได้ หากคุณเองเป็นคนหนึ่งที่ได้มีการทอดไขกินกันเป็นประจำ แต่ทอดเท่าไหร่ก็ไม่ฟูเสียที ถ้าอย่างนั้นมาดูวิธีในการทอดไข่เจียวฟู ๆ กันได้เลยค่ะ

        วิธีทำไข่เจียวทอดด้วยหม้อ – นำน้ำมันพืชใส่ลงไปในหม้อแล้วทำการตั้งไฟ พอเริ่มร้อนมีควันขึ้น – ตีไข่ไก่ให้เข้ากัน และทำการปรุงรสด้วยซีอิ้ว ผงชูรส แล้วทำการตีให้เข้ากัน พอเสร็จแล้ว ก็นำลงไปในกระทะที่ร้อน แต่ถ้าอยากได้ไข่ฟูกรอบน่ารับประทาน ก็ต้องใส่น้ำมันเยอะ เพื่อไข่ฟูน่ารับประทาน – เมื่อได้มีการเทไข่ลงไปแล้ว ผลจะเป็นอย่างที่คุณคิดเลย ว่าจะฟูขึ้นออกมาพอดีกับหม้อ เป็นไข่เจียวที่ดูกลม ๆ น่ารับประทาน – พอเริ่มสุกก็ทำการพลิกอีกด้าน เพื่อให้สุกทั้งสองด้านกันเลย – ไขเจียวสุกแล้ว ก็นำขึ้นมา เพื่อให้สะเด็ดน้ำมัน

        ดังนั้นวิธีการทำไข่เจียวหม้อ ให้ฟูและน่ารับประทานก็เป็นวิธีง่าย ๆ กันเลย เพียงแค่คุณเองต้องใส่น้ำมันให้เยอะ ก็จะเป็นเคล็ดลับที่สำคัญกันนั่นเอง เพราะฉะนั้นในการทอดไข่เจียว ก็เป็นเรื่องที่คุณคนมักจะรับประทานกันเป็นประจำ ซึ่งเป็นเมนูง่าย ๆ ในการทำอาหารกันเลยค่ะ

เคล็ดลับการทอดไข่เจียวให้ฟู น่ารับประทาน
เคล็ดลับการทอดไข่เจียวให้ฟู น่ารับประทาน

ตะไคร้ สมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ

          ตะไคร้ ถือได้ว่าเป็นสมุนไพรที่ดีต่อร่างกายกันเลย ซึ่งมักจะนำมาทำเป็นเมนูอาหารต่าง ๆ ที่คุณเองจะสามารถรับประทานกันได้ จึงกลายเป็นความนิยมในการประกอบอาหารกันเลย นั่นก็คือ ต้มยำ หรือยำต่าง ๆ ที่มีรสชาติเปรี้ยว และมีกลิ่นหอมสมุนไพรไทย อีกทั้งยังเป็นสมุนไพรที่มีความนิยมนำมาประกอบอาหารกันมากในทางเอเชีย แต่คุณเองรู้หรือไม่ว่า สมุนไพรที่หาซื้อได้ง่าย ๆ และปลูกได้ มีสารอาหารและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง ถ้าอย่างนั้นมาดูกันเลยค่ะ

1.ช่วยบรรเทาอาการข้ออักเสบ ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ และช่วยในการบรรเทาอาการปวด ได้เป็นอย่างดี จึงไม่มีความผิวหวังอย่างแน่นอน กับสมุนไพรชนิดนี้ และยังเป็นตัวช่วยในการดูแลโรคที่เกี่ยวข้องกับ โรคเกาต์ โรคไขข้ออักเสบ หรือจะเป็นโรข้อกระดูกอักเสบนั่นเอง

2.บรรเทาอาการไข้หวัด เนื่องจากมีฤทธิ์ในการต้านอาการอักเสบได้ ตะไคร้ก็ยังจะมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อราได้เช่นกัน หากคุณเองได้มีการรับประทานตะไคร้กันเป็นประจำ ก็จะสามารถช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้มีความแข็งแรงได้ จากที่เคยเป็นไข้หวัดกันอยู่บ่อย ๆ ก็จะมีการค่อย ๆ ลดน้อยลงไป

3.สามารถปรับปรุงระบบการย่อยอาหาร เมื่อคุณได้มีการรับประทานเข้าไป ร่างกายของคุณก็อาจจะได้รับสารพิษตกค้างจากอาหารทีได้รับประทาน ก็จะส่งผลให้ทางระบบการทำงานภายในร่างกายได้ เช่น ระบบการย่อยอาหาร ซึ่งสมุนไพรชนิดนี้จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และช่วยการขับสารพิษต่าง ๆ ออกมาได้

4.ช่วยควบคุมคอเลสเตอรอล เนื่องจากตะไคร้เป็นสมุนไพรที่ดีอีกตัวหนึ่ง ที่จะมีประสิทธิภาพในการควบคุมปริมาณของคอเลสเตอรอลในร่างกาย ให้อยู่ในระดับที่มีความเหมาะสม อีกทั้งยังช่วยในการกำจัดคอเลสเตอรรอลให้ออกไปอีกด้วย ดังนั้นตะไคร้ จึงกลายเป็นสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยในการดูแลสุขภาพของตัวเองได้เป็นอย่างดี ทำให้กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เมื่อได้ทำเมนูรสเด็ด อย่างต้มยำ ก็ต้องมีการใส่ตะไคร้ เป็นตัวช่วยลงไปกันนั่นเอง

ตะไคร้ สมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ
ตะไคร้ สมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ

ผักแคลอรี่ต่ำ เมื่อสาวรับประทาน สวยหุ่นดี

          คุณสาว ๆ อยากหุ่นดีเฟิร์ม วันนี้เราอยากจะมีการแนะนำให้คุณควบคุมอาหาร และออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยดีกว่า ดีว่าคุณสาว ๆ ไปอดอาหาร จะยิ่งทำให้ร่างกายยิ่งมีอาการโหยหนักมาก แต่ถ้าคุณเองได้มีการศึกษาเกี่ยวกับผักที่มีแคลอรี่ต่ำ ที่คุณสาว ๆ รับประทานแล้วไม่อ้วน เหมาะกับคุณสาว ๆ ที่อยู่ในช่วงที่ควบคุมน้ำหนักเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

1.เซเลอรี เป็นผักชนิดที่ดีเริ่ดมาก ที่มีแคลอรี่ต่ำ เพียงแค่ 15 กิโลแคลอรี่ เพียงเท่านั้น แถมมีไฟเบอร์ที่สูงยิ่งรับประทานแล้วยิ่งอิ่มท้อง หรือคุณเองจะรับประทานเป็นสลัด หรือคั้นเป็นน้ำดื่มร่วมกับผักชนิดอื่น ๆ กันอีกด้วย

2.หน่อไม้ฝรั่ง เมื่อรับประทาน 1ขีด จะได้พลังงาน 20 กิโลแคลอรี่ สามารถนำมารับประทานคู่กับสลัด หรือนำมาจิ้มกินกับน้ำพริกก็ยังได้ ถือได้ว่าเป็นเมนูไทยที่น่าอร่อยกันเลย

3.บีทรูท เมื่อรับประทาน 1 ขีด ให้พลังงาน 40 กิโลแคลอรี่ แถมยังจะมีสารของ Antioxidant ที่จะสามารถช่วยในการบำรุงผิวพรรณ ให้สวย และดูดีอยู่เสมอ

4.แตงกวา เป็นผักข้าเคียงคู่ใจของสาว ๆ กันเลย ที่มีแคลอรี่ 15 กิโลแคลอรี่ จะมีการออกฤทธิ์เย็นช่วยในการลดความร้อนภายในร่างกาย และมีกากใยที่สูง ช่วยลดคอเรสตอรอล เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับตนเอง

5.ซูกินี จัดได้ว่าเป็นพืชตระกูลแตง ที่มีกากใยสูง 1 ขีด เพียงแค่ 20 กิโลแคลอรี่ สามารถนำมาทำเป็นเมนูอาหารต่าง ๆ ได้มากาย ไม่ว่าจะนำมาผัดไข่ แกงจืด หรือบางคนอาจจะนำมาขูดเป็นเส้นแทนก๋วยเตี๋ยว เพื่อลดแป้งได้อีกด้วย

6.มะเขือเทศ 1 ขีด ได้แคลอรี่ 20 กิโลแคลอรี่ และยังจะมีสารไลโคปีน ที่จะช่วยในการต่อต้านมะเร็ง และทำให้ผิวพรรณดูสดใส ยิ่งรับประทานก็ยิ่งจะลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้เช่นกัน

7.แครอท จะมีสารเบต้าเคโรทีน ที่จะช่วยบำรุงสายตา บำรุงผิว เพื่อเป็นการปรับสมดุลภายในร่างกาย โดยแครอทจะมี 40 แคลอรี่ สามารถนำจิ้มกับน้ำพริก หรือน้ำสลัดได้ ดังนั้นผักแต่ละชนิด ล้วนแล้วมีแคลอรี่ที่ต่ำ ทำให้คุณสามารถรับประทานกันได้ แถมยังช่วยลดน้ำหนักให้คุณสาว ๆ ได้ดีอีกด้วย

ผักแคลอรี่ต่ำ เมื่อสาวรับประทาน สวยหุ่นดี
ผักแคลอรี่ต่ำ เมื่อสาวรับประทาน สวยหุ่นดี

การตลาดแบบเอ็มแอลเอ็ม

     การตลาดแบบเอ็มแอลเอ็ม เป็นอีกหนึ่งกลไกทางการตลาดที่สำคัญ เพราะว่าเป็นอีกหนึ่งระบบการตลาดที่ได้รับความนิยม เรียกว่าเป็นระบบการตลาดแบบเสรี หลายๆคนนำมาใช้กับธุรกิจของตัวเองมากมาย เพื่อให้เข้ากับเศรษฐกิจในปัจจุบัน ถือว่าเป็นส่วนสำคัญของกลไกทางการตลาด สามารถกำหนดราคาต่างๆได้เป็นอย่างดี สามารถกำหนดการแข่งขันได้อย่างชัดเจน

     ทั้งนี้ก็ยังเป็นอีกหนึ่งกลไกทีสำคัญมากๆที่เกิดการสนับสนุน ในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่เน้นการกระจายสินค้าต่างๆไปให้ผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งทำการบรรจุหีบห่ออย่างเหนือชั้น โดยการใช้ระบบสื่อสารที่ยอดเยี่ยม เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งทางการตลาดที่ดี สามารถช่วยในเรื่องของการเข้าถึงได้อย่างเหนือชั้น และทำให้ตัวแทนต่างๆที่ได้รับสินค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เมื่อมีการโฆษณา การประชาสัมพันธ์ การกระจายสินค้า พร้อมทั้งการจัดจำหน่ายต่างๆ ก็จะสามารถเข้าถึงผู้ค้าส่งได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้เองก็ต้องทำการกระจายสินค้าไปยังผู้ค้าปลีกด้วย โดยผู้บริโภคก็สามารถเลือกซื้อได้จากผู้ค้าส่งและผู้ค้าปลีก ตามอัธยาศัย ทางด้านผลกำไรที่จะได้รับในการทำการตลาดแบบเอ็มแอลเอ็มนั้นก็จะเป็นกำไรที่ได้มาจากส่วนแบ่งองผู้ผลิต การจำหน่าย การค้าส่ง การค้าปลีกเป็นทอดๆ ไม่ว่าใครก็ได้กำไรทั้งนั้น เมื่อเราแบ่งสัดส่วนในสินค้าอย่างเหมาะสมก็จะได้รับกำไรที่ดี เพราะว่าระบบเอ็มแอลเอ็ม กำลังมีบทบาทในการประชาสัมพันธ์สำหรับการตลาดในยุคนี้ แถมยังเป็นส่วนที่ดีของผู้บริโภคอีกด้วย เพราะว่าผู้บริโภคทุกคนก็จะได้รับประโยชน์จากกาตลาดแบบเอ็มแอลเอ็มด้วย

     สำหรับการตลาดแบบเอ็มแอลเอ็มเรียกว่าเป็นระบบการตลาดที่ดีที่สุด ต้องมีองค์ประกอบสำคัญๆอย่าง ผู้ประกอบการ, สินค้า, ค่าตอบแทน, และผู้จำหน่าย และผู้บริโภค เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการทำธุรกิจ ทั้งนี้ก็ต้องทำการจดทะเบียนเพื่อประกอบธุรกิจด้วย เพื่อให้ธุรกิจของคุณนั้นเป็นธุรกิจที่ถูกต้อง ฉะนั้นผู้บริหารก็ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจแบบเอ็มแอลเอ็มด้วย เพราะว่าธุรกิจแบบนี้ยิ่งเข้าใจ ยิ่งได้เปรียบ ยิ่งสร้างความเติบโตได้ง่าย และหากคุณจัดการทรัพยากรได้ดี ก็สามารถทำให้ธุรกิจของคุณนั้นประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี

การตลาดแบบเอ็มแอลเอ็ม
การตลาดแบบเอ็มแอลเอ็ม

วิธีทำให้อายุยืน

          ส่วนใหญ่แล้วผู้คนทั่วไปอยากที่จะมีอายุยืนนาน เพื่ออยู่กับลูกหลานได้นาน ๆ นั่นเอง ถึงแม้ว่าทางวิทยาศาสตร์จะมีการชะลอวัยให้มีความก้าวหน้าเพียงใด แต่การที่จะทำกิจกรรมแบบง่าย ๆ บางอย่างเป็นประจำนั้น จะช่วยให้เรามีอายุยืนได้เช่นกัน ทางที่ดีคุณควรรักศึกษากันดูแล้วจะรู้ว่าการทำให้อายุยืนนานนั้น ทำด้วยวิธีใดบ้าง และจะเห็นผลจริงหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณกันแล้ว ถ้าอย่างนั้มาดูกันเลยว่าจะมีวิธีใดบ้าง วิธีทำให้อายุยืนนาน -ยืนขาข้างเดียว เป็นประจำทุกเช้า อย่างเช่น ในระหว่างการแต่งตัว ลองฝึกทำการทรงตัวด้วยการยืนขาเดียว

          เนื่องจากเป็นการสร้างความสมดุลให้กับร่างกาย เมื่อเกิดการสูงวัยจะช่วยให้ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการลื่นล้มได้อย่างแน่นอน -มีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยก็ประมาณ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เนื่องจากมีวิจัยออกกมาว่าคนที่มีเพศสัมพันธ์น้อยกว่าเดือนนั้น จะมีโอกาสเสี่ยงกับการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้ถึงสองเท่ากันเลย เพราะฉะนั้นวิธีนี้จะช่วยให้ลดความเครียดและทำให้นอนหลับได้สนิทอีกด้วย -งดใช้ครีมกันแดดในช่วงเวลา 7.00-9.00 เนื่องจากครีมกันแดดจะมีการเคลือบผิวหนัง ทำให้วิตามินดีจากแสงแดดนั้น ไม่สามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังได

          จึงส่งผลให้เกิดเป็นโรคกระดูกพรุนและโรคหัวใจได้ง่ายยิ่งขึ้น -ควรหัวเราะอย่างน้อยวันละ 20 ครั้ง เป็นการกระตุ้นให้เกิดการคุ้มกัน โดยลดฮอร์โมนความเครียดลงและเพิ่มระดังของเซลล์ในการป้องกันกับมะเร็งได้อีกด้วย ดังนั้นวิธียืนอายุให้ยาวนาน เป็นเรื่องที่ง่าย ๆ อยู่ที่ตัวคุณว่าจะมีวิธีใดที่จะช่วยให้คุณหายเครียดลดลง และวันนี้เราก็ได้บอกเคล็ดลับดี ๆ ในการมีอายุยืนนาน และลดความเครียดได้เช่นกัน

วิธีทำให้อายุยืน
วิธีทำให้อายุยืน

บ้านนี้ดีอยู่แล้วรวย

          ใครที่อยากรวยให้เลือกฮวงจุ้ยการจัดบ้านดีๆ ก็จะสามารถช่วยได้ เพราะว่าดวงแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนก็มีดวงเรียกทรัพย์ บางคนก็มีดวงเรียกโชคลาภ ฉะนั้น เราก็ต้องทำการต้อนรับโชค ต่างๆด้วยการจัดฮวงจุ้ยบ้านให้ดีดังต่อไปนี้ เพื่อช่วยให้ชีวิตของคุณสุขสดใสยิ่งขึ้นไป ทำการเปิดบ้านให้โล่งเป็นประจำเพื่อต้อนรับพลังงานต่างๆดีๆให้เข้ามาสู่บ้านยิ่งบ้านโล่ง ยิ่งทำให้พลังดีๆเข้าสู่บ้าน ทำให้บ้านมีแต่เรื่องมงคล ยิ่งบ้านโล่ง จัดวางเฟอร์นิเจอร์ดี ก็จะยิ่งทำให้พลังงานดีๆเข้าสู่บ้าน ทั้งนี้ก็ต้องทำความสะอาดบ้านเป็นประจำเพื่อเป็นการกำจัดสิ่งสกปรกออกไป ทั้งนี้การเลือกใช้สีเพื่อเพิ่มฮวงจุ้ยให้บ้าน ก็มีส่วนในการเสริมความมั่งคั่งด้วยเช่นกัน ฉะนั้น หากเราเน้นโทนบ้านสีทองก็เปรียบเสมือนว่า เพิ่มเงินเพิ่มทองเข้าสู่บ้าน แถมยังช่วยให้บ้านมีความหรูหรามีความมั่งคั่ง

          ทั้งนี้ยังช่วยเติมเต็มความสวยงามให้กับบ้านอีกด้วย สีทอง เรายังสามารถเอามาตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ต่างๆได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นกรอบรูป ขอบกระจก อีกทั้งโคมไฟต่างๆ แต่หากว่าใครนั้นไม่ถูกกับสีทองก็สามารถเติมเต็มความหรูหราด้วยสีม่วงได้ จากนั้นให้ทำการอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เพื่อทำการเพิ่มโชคให้บ้าน ไม่ว่าจะเป็นยันต์แปดเหลี่ยม, หรือว่าพระ เป็นต้น ทั้งนี้ อาจจะมีการตกแต่งบริเวณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สวยงามเพื่อเพิ่มความสิริมงคลให้กับบ้าน การที่เราเลือกเติมเต็มความธรรมชาติเข้ามาสู่บ้าน เป็นการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ และเติมเต็มความมั่งคั่งต่างๆ ทั้งนี้ก็ช่วยดึงดูดต่างๆทุกทิศทั่วบ้าน เรียกว่าเป็นผลดีมากๆเลยทีเดียว อย่างเช่นการเติมเต็มความเคลื่อนไหวให้กับบ้าน ก็สามารถเพิ่มความเคลื่อนไหวในบ้านได้ ทั้งนี้น้ำยังเป็นเงินเป็นทองเหมือนเพิ่มความไหลเวียนของเงินทอง ทำให้พลังงานในบ้านดีอีกด้วย สุดท้ายการใช้คริสตัลประดับตกแต่งบ้าน เรียกได้ว่าช่วยเติมเต็มโชคลาภต่างๆได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นคริสตัลไพไรต์, คริสตัลซิทริน และคริสตัลอเมทิสต์ ก็สามารถเอามาตกแต่งบ้านได้อย่างแน่นอน

บ้านนี้ดีอยู่แล้วรวย
บ้านนี้ดีอยู่แล้วรวย

เตรียมความพร้อม กับ การทำงานต่างวัฒนธรรม

          โลกการทำงานทุกวันนี้ เปิดกว้างตามกระแสโลกาภิวัฒน์ ทำให้ในที่ทำงานของเราอาจรวมเอาคนหลายเชื้อชาติ ต่างวัฒนธรรมมารวมกันอยู่ เกิดเป็นความหลากลาย และต้องมีการจัดการข้ามวัฒนธรรม

Cross – Culture Management และเราต้องปรับตัวให้เข้ากับองค์กรเพื่อร่วมงานให้ได้ วันนี้เราขอยกตัวอย่างการทำงานกับบริษัทข้ามชาติที่มีเจ้าของเป็นชาวตะวันตก หรือ เรียกง่ายว่า บริษัทฝรั่ง นั่นคือคุณกำลังมีเจ้านายฝรั่ง และเราจะเป็นพนักงานแบบไทยสไตล์โดยไม่ปรับตัวคงไม่ได้ ดังนั้นมาเตรียมความพร้อมเพื่อพิชิตใจนายฝรั่งกันเถอะ แยกเรื่องงานเป็นเรื่องงาน อย่าเอาเรื่องส่วนตัวเข้าเกี่ยว สังคมไทยของเราเน้นระบบเครือญาติและการอุปถัมภ์ อาจทำให้เรื่องงานเรื่องส่วนตัวมีเส้นบางๆที่กั้นไว้เท่านั้นหรือบางทีคือรวมอยู่ในเรื่องเดียวกัน แต่แบบนี้ฝรั่งไม่เก็ต เช่นถ้าคุณมีเรื่องไม่พอใจกับใครสักคนในแผนกอื่นคุณปฏิเสธการร่วมงานกับคนนั้นแบบนี้นายฝรั่งจะไม่ปลื้มเอาได้ แสดงเหตุผลของคุณอย่างเต็มที่ ความเกรงใจเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ฝรั่งไม่เข้าใจ การที่คุณไม่แสดงเหตุผลเพื่อโต้แย้งสิ่งที่คุณไม่เห็นด้วยแต่เก็บเงียบเพราะคำว่าเกรงใจ นายฝรั่งของคุณจะเข้าใจทันทีว่าคุณเห็นด้วยกับนโยบายที่ออกมา คุณควรโต้แย้งหากคุณมีเหตุผลรองรับ แต่อย่าลืมว่าคำว่าเกรงใจไม่ต้องมีแต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือมารยาท โปรดรักษามารยาทในการใช้ถ่อยคำและโต้แย้งด้วยความเคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง แสดงออกให้เห็นถึงความสามารถ จงใช้เวทีเสนอผลงานให้เป็นประโยชน์กล้าที่จะพรีเซนตัวเอง แต่นั้นต้องอยู่บนฐานที่คุณมีความสามารถมีข้อมูลและทำการบ้านมาอย่างดี เติมความมั่นใจลงไปรับรองงานนี้นายฝรั่งปลื้มแน่นอน รับทั้งผิดและชอบ การได้รับมอบหมายงานนั่นแปลว่าคุณต้องรับผิดชอบต่อผลของงานที่เกิดขึ้นด้วย โดยเมื่อเกิดความผิดพลาดคุณต้องรับผิดและปรับปรุงแก้ไขให้เห็นว่าคุณไม่ทิ้งงานหรือโดยนความผิดให้คนอื่น เรื่องความรับผิดชอบหรือ Responsibility คือสิ่งที่ฝรั่งให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ คิดอย่างเป็นระบบ นั่นคือคุณต้องสามารถสื่อสารได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน เชื่อมโยงขั้นตอนต่างๆเข้าด้วยกันได้ลาสื่อสารให้คนอื่นเข้าใจได้นอกจากนั้นการมองระบบใหญ่ให้ออกสำคัญมากในการทำงานบริษัทฝรั่งคุณต้องคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลและเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวข้องกันได้ สุดท้ายอย่าลืมความเป็นไทย การพยายามปรับตัวเป็นสิ่งดีมากแต่อย่างลืมธรรมชาติบางอย่างของคนไทย เช่น การนอบน้อม การประนีประนอม เพราะการปรับตัวด้านวัฒนธรรมที่ดีในองค์กรเป็นการปรับตัวร่วมกันของทุกวัฒนธรรมนั่นคือนายของคุณควรต้องได้เรียนรู้วัฒนธรรมไทย ความเป็นคนไทยด้วย และปรับเข้ามาเจอกันแบบนี้องค์กรน่าจะมีความสุขกว่าจริงไหมค่ะ

เตรียมความพร้อม กับ การทำงานต่างวัฒนธรรม
เตรียมความพร้อม กับ การทำงานต่างวัฒนธรรม

การบริหารจิตกับวิธีง่าย ๆ

การบริหารจิต – หลวงพ่อจรัญ ฐิตตธัมโม

      เป็นความจริงที่ปรากฏชัดว่า  นักเรียน  นักศึกษา  หรือใครก็ตามที่มีสุขภาพจิตดี  ย่อมเรียนหนังสือได้ดี  สามารถทำงานได้มาก และได้ผลดี  มีประสิทธิภาพสูง  ทั้งสามารถเข้ากับเพื่อน ๆ ได้ดี และช่วยสังคมได้ดี  เพราะมีสุขภาพจิตสูง  ย่อมมีความสุข  และความสำเร็จในชีวิต  ได้มากกว่าผู้ที่มีจิตเสื่อมและอ่อนแอ  เช่นเดียวกับผู้ที่กำลังกายสมบูรณ์แข็งแรง  ย่อมมีความสุข  และความก้าวหน้าในชีวิตได้มากกว่าคนที่มีร่างกายอ่อนแอ  และเป็นโรค

      อันร่างกายจะแข็งแรง และมีพลานามัยดีได้นั้น  ก็เพราะเจ้าของกายรู้จักรักษาสุขภาพของตน เช่น  ออกกำลังกาย  รู้จักบริหารกาย  รู้จักบริโภคอาหารที่ถูกสุขลักษณะ  พักผ่อนให้เพียงพอ  และได้อากาศบริสุทธิ์ ข้อนี้ฉันใด  จิตของมนุษย์ ก็เช่นเดียวกัน  จะมีสุขภาพสมบูรณ์ได้ เพราะเจ้าของรู้จักบริหารจิตของตน  โดยฝึกฝนอารมณ์ด้วยวิธีอันถูกต้อง

     การบริหารจิต  ก็คือการรักษาคุ้มครองจิต  การฝึกฝนอบรมจิต  หรือการทำจิตให้สงบ  ให้สะอาด  ปราศจากความวุ่นวายเดือดร้อน  ให้เข้มแข็ง  ให้มีสุขภาพจิตดี  และให้นำมาใช้ปฏิบัติงานได้ดี พูดง่าย ๆ ก็คือ  “การพัฒนาจิต” นั้นเอง

     ประเทศชาติที่ได้การบริหารดี  ได้รับการพัฒนาดีแล้ว ย่อมเป็นประเทศที่รุ่งเรือง  ประชาชนในประเทศนั้น  ย่อมอยู่ดีกินดี มีความสงบสุขได้ ฉันใด  จิตที่บริหารดีแล้ว  พัฒนาดีแล้วก็ฉันนั้น เหมือนกัน  คือ  ย่อมมีความเกษมและสงบสุข

     ทุกคนที่เกิดมาล้วนแต่รักสุขเกลียดทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้นและความสุขที่มนุษย์ต้องการนั้นมีอยู่ ๒ อย่างคือ

   ๑. ความสุขทางกาย
   ๒. ความสุขทางใจ
   
ความสุขทั้ง ๒ อย่างนี้
      ต้องอาศัยกันและกัน  คือถ้ากายเป็นสุขแล้ว  ก็จะทำให้ใจเป็นสุขด้วย หรือถ้าใจเป็นสุขแล้ว  ก็จะทำให้กายเป็นสุขด้วย  เช่นเดียวกับเรื่องของความทุกข์  เพราะกายกับจิตมีความเกี่ยวเนื่องกัน  คือรูป กับ นาม  แม้พระพุทธศาสนาจะยอมรับความสุขทั้ง ๒ อย่างนี้ แต่ก็ยกย่องจิตว่าประเสริฐกว่ากาย  เพราะกายรวมทั้งสมอง เป็นผู้ปฏิบัติตามคำสั่งของจิต  จิตเป็นผู้นำ  ดังพุทธภาษิตว่า
 
“มโนปุพฺพงฺคมา  ธมฺมา”  ซึ่งแปลว่า  ธรรมทั้งหลาย  มีใจเป็นหัวหน้า
   
 
การฝึกจิตบริหารจิตนั้นมีคุณค่าต่อชีวิตมาก

                  ๑. ถ้าเป็นนักเรียน  นักศึกษา  ก็สามารถเรียนหนังสือได้ผลดีเพิ่มขึ้น  ได้คะแนนสูง  เพราะมีจิตใจสงบ  จึงทำให้มีความจำแม่นยำ  และดีขึ้นกว่าแต่ก่อน
                  ๒. ทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น  ไม่ค่อยผิดพลาด  เพราะมีสติสมบูรณ์ขึ้น
                  ๓. สามารถทำงานได้มากขึ้น  และได้ผลดีอย่างมีประสิทธิภาพ
                  ๔. ทำให้โรคภัยไข้เจ็บเบาบางอย่างหายไปได้
                  ๕. ทำให้เป็นคนมีอารมณ์เยือกเย็น  มีความสุขใจได้มากมีผิวพรรณผ่องใส  มีจิตใจเบิกบาน
                  ๖. ทำให้อยู่ในสังคมอย่างปกติสุข  เช่นอยู่ในโรงเรียนก็ทำให้เพื่อน ๆ และครูพลอยได้รับความสุขไปด้วย  เป็นต้น
                  ๗. สามารถเผชิญเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าได้อย่างใจเย็น  รวมทั้งสามารถแก้ไขความยุ่งยาก  และความเดือดร้อนวุ่นวายในชีวิตได้ด้วยวิธีอันถูกต้อง
                  ๘. สามารถกำจัดนิวรณ์  ที่รบกวนจิตลงได้  หรืออย่างน้อยก็ทำให้เบาบางลงได้
                  ๙. ถ้าทำได้ถึงขั้นสูง  ก็ย่อมได้รับความสุขอันเลิศยิ่งและอาจสามารถได้อำนาจจิตพิเศษ  เช่น รู้ใจคนอื่น  เป็นต้น

การบริหารจิต – หลวงพ่อจรัญ ฐิตตธัมโม
 

การบริหารจิตกับวิธีง่าย ๆ
การบริหารจิตกับวิธีง่าย ๆ
Scroll to Top