สำหรับในยุคปัจจุบันนี้น้อยคนนักที่จะไม่ใช้โน้ตบุค การทำงานส่วนใหญ่มักต้องใช้โน้ตบุคเพื่อการช่วยทำงานด้วยกันทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นงานด้านวิชาการหรืองานที่ต้องนำเสนอลูกค้าก็ตาม
ในปัจจุบันแบตเตอรี่ของโน้ตบุคประกอบไปด้วยรูปแบบสองชนิด คือ แบตเตอรี่แบบ LITHIUM-ION (LI-ION) และแบตเตอรี่แบบ LITHIUM POLYMER (LI-PO) ซึ่งแบตเตอรี่ทั้งสองรูปแบบนี้เป็นแบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐานและในช่วงระยะหลังๆ นี้แบตเตอรี่แบบ LI-PO กลับได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ หากจะถามว่าเป็นเพราะอะไร? นั่นก็เป็นเพราะแบตเตอรี่แบบ LI-PO เป็นแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าแบตเตอรี่แบบ LI-ON นั่นเองแถมที่สำคัญแบตเตอรี่ชนิดนี้ยังมีความสามารถในเรื่องของการปรับเปลี่ยนลักษณะรูปร่างได้อีกด้วย เมื่อปรับรูปร่างเปลี่ยนได้นั่นย่อมหมายความว่ายิ่งเป็นการช่วยประหยัดพื้นที่ของตัวโน้ตบุคได้อีกมากมาย สำหรับการสังเกตการเสื่อมของแบตเตอรี่สามารถสังเกตได้ไม่ยาก นั่นคือ แบตเตอรี่จะใช้งานได้น้อยกว่าปกตินั่นเอง วิธีการช่วยกู้ชีพแบตเตอรี่นั้นทำได้ไม่ยากเพียงแค่ ให้คุณทำการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มเสียก่อนละหากชาร์จจนเต็มแล้วควรทำการชาร์จต่อไปอีกประมาณ 30 ถึง 45 นาทีเป็นดีที่สุด หลังจากนั้นให้คุณทำการถอดสายชาร์จออกแล้วใช้งานโน้ตบุคได้ตามปกติจนกว่าจะพบว่าแบตเตอรี่เหลือเพียง 5 ถึง 10% เมื่อแบตเตอรี่เหลือ 5 ถึง 10% ให้คุณทำการหยุดการใช้โน้ตบุคทันทีโดยให้กดปุ่มปิดเครื่อง (SHUTDOWN) (ควรปิดเครื่องไว้อย่างน้อย 12 ชั่วโมงถึง 24 ชั่วโมง) เมื่อครบเวลาที่กำหนดให้คุณเปิดเครื่องพร้อมทั้งทำการเสียบสายชาร์จเข้ากับตัวเครื่องและทำการชาร์จต่อจนแบตเตอรี่ครบ 100% จากนั้นคุณก็สามารถใช้งานโน้ตบุคได้ตามปกติได้เลย เท่านี้ก็สามารถกู้ชีพแบตเตอรี่ได้อย่างง่ายดาย และทำให้คุณสามารถใช้งานแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คได้นานยิ่งขึ้นแล้วล่ะ