การรักษารากฟัน ซึ่งได้มีคนไข้หลากหลายคนที่มีการปล่อยปะละเลยให้ฟันผุทิ้งไว้ไม่รักษา และอุดฟันให้เรียบร้อยทำให้โรคฟันลุกลามทำลายฟันมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้เป็นโพรงประสาทฟัน ที่เกิดการอักเสบและมีฝีหรือถุงหนองที่ปลายรากฟัน จะมีอาการปวดทรมาน ทั้งยังเป็นแหล่งที่แพร่เชื้อโรค คอยบ่อนทำลายสุขภาพร่างกายอย่างเรื้อรัง จนจำเป็นต้องถอนฟันไปเป็นจำนวนมาก
แต่เมื่อเกิดความต้องการแก้ไขด้วยการรักษาฟันไว้ ไม่อยากถอนออกจากปากก็แทบจะสายเสียแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่เกินความสามารถของผู้รักษา ที่จะช่วยเหลือคนไข้เหล่านั้นได้ เพียงแต่วิธีการรักษาค่อนข้างยุ่งยากและมีความสลับซับซ้อน จะต้องใช้ระยะเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งทันตแพทย์ทุกคน ไม่ได้ปรารถนาที่จะให้ผู้ป่วยตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น เนื่องจากงานรักษารากฟันเป็นงานที่ลำบากมิใช่น้อย โดยเฉพาะการรักษารากฟันกรามซึ่งจะมี 3-4 ราก ดังนั้นเพื่อให้การรักษาเกิดผลสำเร็จตามความต้องการ จึงจำเป็นต้องเสียเวลาไปพบกับทันตแพทย์หลายครั้งในการรักษารากฟัน วิธีการรักษารากฟัน เป็นหลักการสำคัญในการรักษารากฟัน คือ ถ้าฟันของท่านมีการติดเชื้อในโพรงประสาท ในการรักษาก็จะทำให้ใส่ยาประเภทแคลเซียมไฮดรอกไซด์ เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อ และเมื่อมั่นใจแล้วว่าภายในคลองรากฟันจะปราศจากเชื้อ ก็จะทำให้การอุด และการครอบฟันกันต่อไปได้ สำหรับขั้นในการรักษารากฟันจะมีดังนี้
1.กรอฟันหาคลองรากฟัน ซึ่งเป็นรูเล็ก ๆ อยู่ต่อจาทางโพรงประสาท ที่ปลายรากฟัน
2.มีการขยายคลองรากฟันให้ใหญ่ขึ้น เพื่อที่ใช้นำยาล้าง ซับให้แห้ง และมีการใส่ฆ่าเชื้อโรคได้
3.ปิดโพรงประสาทฟัน ด้วยวัสดุอุดชั่วคราว เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ประมาณ 3-7วัน
4.ล้าง และขยายคลอดรากฟัน พร้อมกับมีการเปลี่ยนยาฆ่าเชื้อโรคใหม่ และมีการอุดปิดโพรงประสาทฟันด้วยวัสดุอุดชั่วคราวกลับไปอีกครั้ง จะมีการทำเช่นนี้ประมาณ 4-5 ครั้ง จนกว่าหนองจะแห้ง ไม่มีเชื้อโรค
5.เมื่อหนองแห้งไม่มีเชื้อโรค รวมไปถึงสิ่งสกปรกตกค้างต่าง ๆ ทันตแพทย์ก็ยังจะมีการทำการอุดปิดโพรงประสารทฟันแบบถาวาร โดยที่จะใช้วัสดุจำพวกยาง อุดคล้ายเงินหรือกระดาษดีบุกที่มีการหุ้มซองบุหรี่ จะมีคุณสมบัติที่มีความแข็งแรงได้ดี
ดังนั้นหากคุณเองไม่รักษาฟันผุ ก็จะส่งผลเสียต่อสภาพฟันของคุณได้เช่นกัน และนี่ก็ถือได้ว่าไม่ควรพลาดกับการติดตาม