ผักที่ไม่ควรรับประทานแบบดิบ ๆ จริงแล้วอาจจะไม่ถึงกับเป็นผักต้องห้าม ควรบริโภคแต่น้อย เพื่อความปลอดภัยและรักษาสุขภาพให้ดีมากยิ่งขึ้น ถ้าคุณรู้ว่าผักชนิดใดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สิ่งทีต้องรู้เพิ่มไปอีกอย่างหนึ่งคือ บางชนิดไม่ควรรับประทานแบบดิบ ในปริมาณที่มากเกินไป เนื่องจากอาจจะทำให้ร่างกายไม่ปลอดภัยก็เป็นได้ ถ้าอย่างนั้นมาติดตามผักแต่ละชนิดที่ไม่ควรรับประทานดิบ ๆ เพื่อไม่เป็นการสะสมสารอันตรายต่อร่างกายโดยที่ไม่รู้ตัว
1.กะหล่ำปลีมีวิตามินซีสูง ถือได้ว่ากินแล้วมีประโยชน์ ต่อร่างกาย แต่ต้องมีการปรุงให้สุกก่อนรับประทาน เนื่องจากหากกินกะหล่ำปลีดิบในปริมาณมากเกินไป สารออกซาเลต ที่อยู่ในกะหล่ำปลีจะไปทำการจับกับแคลเซียมที่กรวยไต จนทำให้กลายเป็นสารแคลเซียมออกซาเลต หากมีสารตัวนี้ที่กรวยไตจำนวนมาก ก็จะเสี่ยงต่อโรคนิ่วในไตได้ อีกทั้งในกะหล่ำปลีดิบยังจะมีน้ำตาลชนิดหนึ่ง ซึ่งคนที่มีปัญหาในระบบย่อยอาหารอาจไย่อยน้ำตาลชนิดนี้ไม่ได้นั้น และอาจนำไปสู่อาการท้องอืด และแน่นท้องได้ แต่ถ้าหากได้มีการนำกะหล่ำปลีไปปรุงสุก น้ำตาลที่ว่าก็จะเปลี่ยนโมเลกุลเป็นสารที่ย่อยได้ง่าย ไร้ปัญหาท้องอืดแน่นอน
2.ดอกกะหล่ำ เป็นพืชชนิดหัวอีกอย่างหนึ่งที่จะต้องระวังหากจะรับประทานแบบดิบ ๆ เพราะดอกกะหล่ำนั้นก็จะมีน้ำตาลชนิดเดียวกันกับกะหล่ำปลีด้วย เพราะฉะนั้นหากไม่อยากเกิดอาการท้องอืดได้ ก็ควรนำดอกกะหล่ำไปปรุงให้สุกก่อนรับประทานนะคะ
3.บรอกโคลี เป็นตระกูลเดียวกันกับกะหล่ำปลีและดอกกะหล่ำกันเลย บรอกโคลีจะมีน้ำตาลที่ควรต้องถูกย่อยด้วยความร้อนก่อนที่จะเกิดอาการท้องอืด และในบรอกโคลีดิบยังมีฮอร์โมนบางชนิดที่เป็นตัวกระตุ้นความเสี่ยงโรคไทรอยด์ แต่เจ้าฮอร์โมนนี้ทจะถูกย่อยสลายไปเมื่อโดนความร้อน เพราะฉะนั้นบรอกโคลีจึงจัดเป็นผักอีกชนิดที่รับประทานดิบมาก ๆ อาจก่อให้เกิดโทษได้
4.ถั่วฝักยาว ถั่วฝักยาวดิบจะมีปริมาณไกลโคโปรตีนและเลคตินค่อนข้างสูง ซึ่งสารเหล่านี้มีส่วนชักนำอาการคลื่นไส้ อาเจียน และอาการท้องเสียได้ในเวลา 3 ชั่วโมงหลังรับประทานถั่วดิบ ๆ เข้าไป ซึ่งทางองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกายังออกมาเตือนอีกด้วยว่า ไม่ใช่แค่ถั่วฝักยาวเท่านั้นที่กินดิบ ๆ แล้วอาจให้โทษ ทว่าถั่วแดงหรือถั่วดำก็ไม่ควรกินดิบด้วยเช่นกัน ไม่อย่างนั้นอาจทำให้ไม่สบายได้นะจ๊ะ ดังนั้นผักแต่ละชนิดนี้ไม่ควรรับประทานดิบ ๆ เพื่อเป็นผลต่ออันตรายภายในร่างกายทำให้คุณจะต้องทำให้สุกก่อนเสมอ