ขั้นตอนการเป็นนักการตลาดรถยนต์ที่สุดยอด

          หากพูดถึงเรื่องการขายสินค้าหลายคนคงจะคิดว่าเป็นเรื่องที่ง่ายเพียงแค่ซื้อมาขายไปเท่านั้น แต่ความจริงแล้วการเป็นนักการตลาดจำเป็นต้องมีไหวพริบที่เฉียบไวและมีการบริการเป็นเลิศจึงจะเป็นผู้ที่สำเร็จในการตลาด Realization (การตลาดความตระหนัก) คือการแทรกซึมให้แบรนด์เข้ามาอยู่ในความคิดของคนเราอย่างไม่รู้ตัวไม่ว่าจะไปที่ไหนหรือทำอะไรก็จะต้องเจอแบรนด์นี้เท่านั้น หรือเมื่อเปิดทีวีก็จะเจอโฆษณารถยี่ห้อนี้บ่อยครั้ง Investigation (การตลาดการสืบหาข้อเท็จจริง)ต้องรู้ว่าบริษัทรถยนต์มีกลุ่มเป้าหมายเลือกรถแต่ละรุ่นอย่างไรประเภทไหน กลุ่มเป้าหมายเคยชินกับการค้นหาข้อมูลในสิ่งที่ตนเองสนใจหรืออาจะเป็นการพูดคุยเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเพื่อหาข้อมูลและทำให้เข้าใจได้ง่ายและมีหลายช่องทางเช่นการค้นหาข้อมูลทางออนไลน์ Involvement (การตลาดความเกี่ยวโยง) ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสำคัญคือเลิกการมโนและให้กลับมาคิดตามหลักความเป็นจริงถึงสภาพความเป็นอยู่ในชีวิตจริง คนที่จะซื้อรถสักคันจำเป็นต้องนึกถึงสิ่งรอบตัวเพื่อตีกรอบความต้องการของตนเองให้ตรงกับแบรนด์หรือรุ่นของรถยนต์ให้เหมาะสมกับตัวเองให้มากที่สุดและที่สำคัญต้องคำนึงถึงรายรับรายจ่ายด้วยเช่นกัน Acquisition (การตลาดการเข้าครอบครอง)การตัดสินใจในการครอบครองรถยนต์สักคันจำเป็นต้องทดลองขับหรืออาจจะพาคนที่ช่วยตัดสินใจไปช่วยดูด้วยหรือช่วยในการเจรจา Consumption (การตลาดการบริโภค)เมื่อซื้อมาแล้วก็ต้องนำมาใช้งานกันบ้าง ประสบการณ์ของการใช้งานและการเข้ารับบริการต่างๆว่าพึงพอใจมากน้อยแค่ไหนเช่นการนำรถเข้าตรวจเช็คระยะถือเป็นการบริการหลังการขาย Confirmation (การตลาดการยืนยันรับรอง) คือขั้นตอนยืนยันความคิดของตนเองว่าถูกหรือไม่ หรือคิดผิดที่เลือกซื้อใช้รถรุ่นนี้หากรู้สึกประทับและพอใจก็จะทำให้เกิดความจงรักภักดีกับแบรนด์นี้กัน Conversation (การตลาดการพูดคุย)ถ้ารู้สึกประทับใจก็จะเชียร์กันสุดๆไปเลย ถือเป็นการบอกต่อที่ได้ผลดีอย่างเห็นได้ชัดซึ่งเป็นการตลาดที่ไม่ได้ลงทุนแต่อย่างใดหากมีมาตรฐานการบริการที่ดีแต่ถ้าหากบริการไม่ดีก็จะบอกห้ามปรามให้มาซื้อหรือใช้บริการที่นี่เช่นกัน