[i][b]**++การเสียภาษีเงินได้ของมูลนิธิหรือสมาคม**++[/b][/i] มูลนิธิหรือสมาคมที่ประกอบการในประเทศไทยไม่ว่าจะจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือตามกฎหมายต่างประเทศมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากรในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี โดยเมื่อสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี มูลนิธิหรือสมาคมที่ประกอบกิจการซึ่งมีรายได้จะต้องยื่นรายการเสียภาษีตามแบบ ภ.ง.ด.55 ภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี 1. รายได้ของมูลนิธิหรือสมาคมที่จะต้องเสียภาษีเงินได้ รายได้ที่จะต้องเสียภาษีเงินได้ของมูลนิธิหรือสมาคม ได้แก่ รายได้จากการ ประกอบกิจการ เช่น ค่าเช่า รายได้จากการจำหน่ายสินค้าและบริการ และรายได้จากทุน เช่น ดอกเบี้ย และเงินปันผล เป็นต้น มูลนิธิหรือสมาคมจะต้องนำรายได้ดังกล่าวมาคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลตามอัตรา ที่กฎหมายกำหนด โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น 2. รายได้ของมูลนิธิหรือสมาคมที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ มูลนิธิหรือสมาคมที่ไม่ได้รับการประกาศกำหนดให้เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศล ตามมาตรา 47(7) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร จะได้รับยกเว้นไม่ต้องนำรายได้ดังต่อไปนี้มาคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล ได้แก่ 1. ค่าลงทะเบียนหรือค่าบำรุงที่ได้จากสมาชิก 2. เงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับจากการบริจาค 3. เงินหรือทรัพย์สินที่ได้จากการให้โดยเสน่หา 4. เงินได้จากกิจการโรงเรียนเอกชนของมูลนิธิหรือสมาคม ซึ่งได้ก่อตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน แต่ไม่รวมถึงเงินได้จากการขายของ การรับจ้างทำของ หรือการให้บริการอื่นใดที่โรงเรียนเอกชนซึ่งเป็นโรงเรียนประเภทอาชีวศึกษาได้รับจากผู้ซึ่งมิใช่นักเรียน [center]++++ wanwan032 ++++[/center]
ตอบ: wanwan008 wanwan011 wanwan013 wanwan014